‘พี่ก้องนี่..ยิ่งกว่าครูแนะแนว’
‘พี่ก้องนี่..ยิ่งกว่าครูแนะแนว’
นั่น. เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาระหว่างการพูดคุย
.
.
.
พี่ก้องเป็นคนแปลกหน้าแต่ไม่หน้าแปลกที่สร้างความแปลกใจให้เราได้ทันทีที่พบกัน
มันเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ที่เราได้พูดคุยกัน แต่กลับให้ความรู้สึกเหมือนสนิทกันมาตั้งแต่อนุบาล (555)
นอกจากจะสนิทแล้วยังดูเหมือนเขาจะรู้จักตัวเราดีกว่าตัวเราเองอีกต่างหาก (ไม่จริงหรอกที่ว่ารู้ดีกว่า 555 พี่ก้องบอกพี่เขาแค่มีชุดความรู้ที่น่าจะตรงกับคนแบบเรา)
เริ่มต้นบทสนทนาจากการถามคำถามง่ายๆ อย่าง เรามีปัญหาอะไร สิ่งที่ต้องเราต้องทำก็แค่ เล่าให้เขาฟัง
ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมากมายในการพูดคุย
กฎ ก็คือ ไม่มีกฎ
ฮ่า
(เราขำจริงนะ)
จากสิ่งที่เราเล่า พี่ก้องก็จะวิเคราะห์ร่วมกับชุดความรู้ที่เขามี แล้วพิจารณาว่า เราน่าจะเป็นคนแบบไหน
พี่ก้องจะคอยถามตลอดการสนทนาว่า ‘อันนี้ใช้คุณมั้ย คุณเป็นแบบนี้หรือเปล่า’ ‘ตรงกับตัวคุณมั้ย’
ถ้าไม่ เราก็บอกเขาไปตามตรง
แต่ที่น่าแปลกใจคือ มันตรงทั้งหมดเลย
.
ยิ่งกว่าหมอดู เอ้ย! ครูแนะแนว
.
นอกจากจะช่วยแนะนำแล้ว พี่เขายังทำให้เราได้เรียนรู้ รู้จักตัวเองมากขึ้นด้วย ทั้ง*ข้อดีของเรา *ความถนัด *ข้อควรระวัง *วิธีการ/วิธีฝึกแก้ข้อเสียของตัวเอง *สิ่งที่เราชอบ/ไม่ชอบ *ภาพลักษณ์ที่คนอื่นมีต่อเรา *อะไรคือสิ่งที่เราเป็น
นอกจากนี้ยังให้แง่คิดและเสริมมุมมองใหม่ๆให้กับเราด้วย
ไม่ค่อยอยากเล่าเรื่องปัญหาของตัวเองในที่สาธารณะนัก ดังนั้นเอาเป็นว่า พี่ก้องช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นภายในใจเราได้ละกันนะคะ 555 และมันยิ่งกว่าช่วยอีก
.
.
.
พี่ก้องนี่..ยิ่งกว่าครูแนะแนวอีกนะคะ
ขอบคุณที่สละเวลามาคลายเมฆหมอกภายในใจเรานะคะ
/////////////////////////////////
น้อง มีอาร์ เฟรชชี่ จากพระจอมเกล้าลาดกระบัง ได้รับคำแนะนำมาจากรุ่นพี่ๆ ให้ลองมาพูดคุยกัน เพื่อเคลียร์สิ่งที่สงสัยในใจ
ในการพูดคุยกันแทบทุกครั้ง จะเป็นการพูดคุยตามเฟรมเวิร์คที่ผมเตรียมไว้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นแบบนั้นเป๊ะๆ เสมอไป บางเคส คุยเรื่องนี้เสร็จ ก็เห็นสมควรว่าต้องต่อเรื่องนั้นไปด้วย ก็มี หรืออย่างเช่นเคสนี้ เป็นการพูดคุยกัน แบบไม่เต็มกระบวนการ
เพราะด้วยช่วงวัยของน้อง การคุยกันในบางประเด็นอาจไม่ได้เป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิตมากขึ้นเท่าไหร่ เลยเป็นการพูดคุยในประเด็นหลักๆ พร้อมทั้งเคลียร์ปัญญาที่น้องติดค้างใจใน จากนั้นก็นัดหมายกันว่า อีกสามปีข้างหน้า ค่อยมาคุยกันในประเด็นที่เหลือต่อ (ถ้าน้องยังต้องการ)
ระหว่างนี้ ตั้งประเด็นเอาไว้ ให้น้องลองไปคอยสังเกตตัวเองดู ว่าประเด็นนั้นๆ เราคิด พูด ทำ ยังไง โดยไม่ได้ตีกรอบห้ามอะไรเอาไว้ เพื่อให้น้องได้ใช้ชีวิตนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย ไปตามวัย ตามธรรมชาติ ที่น้องควรจะต้องพบเจอ
ทั้งหมดที่เล่ามา ว่าจะทำอะไร หรือไม่ทำอะไร ไม่ได้มีเกณฑ์ตายตัวหรอก เอาเข้าจริง ผมเองก็อาจบอกเหตุผลอะไรชัดๆไม่ได้ แค่เชื่อในประสบการณ์และสัณชาตญานของตัวเองล้วนๆ
ใครสนใจบ้าง ทำใจล่วงหน้าหน่อยว่า เป็นการนัดหมายเวลาที่สะดวกตรงกันนะครับ อาจเร็วบ้าง ช้าบ้างครับ
ภาพและข้อความได้รับอนุญาติให้เผยแพร่จากโค้ชชี่แล้ว
ขออภัยน้องมีอาร์ที่จังหวะแค๊ปภาพอาจไม่พอดีเท่าไหร่ ^_^
Original FB Source: https://www.facebook.com/1621643211384186/posts/2981688618712965